เทคนิคการเลือกล้อแม็กให้เหมาะกับรถ

ร้านล้อแม็ก ใกล้ฉัน อย่างที่รู้ๆกัน สำหรับคนที่มีรถยนต์ส่วนใหญ่นั้น เรื่องล้อรถก็ถือเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เจ้าของรถหลายๆคน ให้ความสำคัญในการปรับแต่งเพื่อความสวยงาม เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าล้อรถยนต์นั้นก็มีผลอย่างยิ่งต่อรูปลักษณ์และสไตล์ของรถแต่ละคัน

เรื่องความสวยความงามนั้นคงเป็นเรื่องที่ห้ามกันได้ยาก ก่อนจะเลือกซื้อ “ล้อแม็ก” เชื่อว่าหลายๆคนต้องตั้งคำถามในใจว่า จะเปลี่ยนเป็นล้อแม็กขนาดเท่าไรดี ยางต้องเป็นแบบไหน ลวดลาย สีสัน เข้ากับรถหรือไม่ ราคาจะแรงหรือเปล่า ก็คงมีหลายคนที่เสิร์จหาข้อมูลเรื่อง ล้อแม็ก จากเพจ Pantip หรือเสิร์จหาร้านล้อแม็ก ใกล้ฉัน เพื่อดูรีวิวผลงานของร้านต่างๆ ว่าดีหรือไม่ เมื่อเปลี่ยนแล้วไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง


วันนี้ทางเยลโล่เซอร์วิสของเรา จะมาแนะนำเทคนิคการเลือกล้อแม็กอย่างไรให้เหมาะกับรถของคุณ ไม่ว่าจะแม็กใหม่ หรือแม็กมือสอง ก็ต้องให้ความสำคัญกับ 3 ข้อหลักๆ คือ ดีไซน์ ขนาด และยาง เพื่อความสวยงามและมีสมรรถนะในการขับที่ดีตามไปด้วย

เทคนิคการเลือกล้อแม็กให้รถของคุณ

1.ดีไซน์ล้อแม็ก
เชื่อว่าหลายท่านให้ความสำคัญมากที่สุด ไม่ว่าจะลายก้านถี่ ก้านใหญ่ หรือลายอื่นๆที่มีให้เลือกเพียบ ตรงนี้ในเรื่องของความสวยงาม ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล แค่อยากแนะนำไว้ เผื่อจะนำไปใช้ประกอบการเลือกซื้อกันครับ

– ล้อแม็กลายจาน (Disc Type) ลักษณะจะเป็นลายทึบดูไม่ค่อยสวยงามและไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก แต่ข้อดีของล้อแม็กแบบนี้คือสามารถแบกรับน้ำหนักมากมีความทนทานสูง เหมาะกับรถกระบะและพวกรถอเนกประสงค์

– ล้อแม็กลายก้านใหญ่ (Spoke Type) เป็นลายที่ได้รับความนิยมมากกว่าแบบแรกโดยเฉพาะลาย 5 ก้าน และ 6 ก้าน ข้อดีของล้อแม็กลายนี้ คือนอกจากจะสวยงามกว่าแบบแรกแล้ว ยังสามารถแบกรับน้ำหนักได้ดีอีกด้วย เหมาะกับรถนั่งขนาดใหญ่

– ล้อแม็กลายก้านถี่หรือก้านเล็ก (Fin Type) เป็นล้อแม็กที่ฮ็อตและนิยมกันมากที่สุดเพราะความสวยงาม แต่ข้อเสียแบกรับน้ำหนักได้ไม่ค่อยดี มีโอกาสล้อดุ้งหรือคดได้ง่ายๆ หากขับตกหลุมหรือกระแทกแรงๆ เหมาะกับรถที่วิ่งทางเรียบเป็นหลัก

– ล้อแม็กลายตาข่าย (Mesh type) มีความสวยงามเป็นอมตะและมีความแข็งแกร่งมากกว่าก้านเล็ก ข้อเสียคือทำความสะอาดค่อนข้างยากเพราะสิ่งสกปรกจะเข้าไปติดจามซี่ต่างๆ ได้ง่าย

2. ขนาดล้อแม็ก
การเปลี่ยนล้อชุดใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นนั้นก็เพื่อทำให้รถดูสวยงามมากยิ่งขึ้น คำถามคือแล้วจะต้องใส่แม็กขนาดเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม บางคนคิดว่ายิ่งใหญ่ยิ่งสวยซึ่งก็ไม่ผิด แต่ล้อที่มีขนาดใหญ่เกินไปอาจส่งผลต่อการขับขี่รวมไปถึงช่วงล่างและกำลังของเครื่องยนต์ที่ต้องรับภาระหนักขึ้นตามไปด้วย

วิธีเลือกล้อแม็กที่เหมาะสมนั้นจะต้องเลือกขนาดทั้งล้อและยางให้มีความสัมพันธ์กัน โดยพยายามรักษาระดับเส้นผ่านศูนย์กลาของล้อให้ใกล้เคียงกับค่ามาตรฐานที่สุด พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าจะใส่แม็กใหญ่ขึ้น ก็ต้องเเปลี่ยนยางที่มีแก้มยาง (ซีรี่ย์ยาง) ให้บางลง เพื่อให้ความสูงของตัวรถใกล้เคียงของเดิมนั่นเอง

1. ดูขนาดล้อเดิมที่ให้มา 14นิ้ว, 15นิ้ว, 16นิ้ว, 17นิ้ว หรือ 18นิ้ว
2. ใช้สูตรเพิ่มขนาดล้อแม็ก +1นิ้ว +2นิ้ว +3นิ้ว +4นิ้ว (ไม่แนะนำให้เพิ่ม +1นิ้ว จะดูไม่ต่างจากของเดิม)
3. สำหรับรถเก๋ง ใช้ขอบล้อกว้าง 6 – 7.5 นิ้ว ก็พอแล้ว ถ้าชอบแบบยางล้นซุ้มเยอะๆ ให้จัด 8 นิ้วขึ้นไป
4. ดูรูล้อแม็ก (PCD) เป็นแบบไหน เช่น 4 รู, 5 รู, 6 รู ไม่ควรดัดแปลงจากของเดิม ส่วนค่า PCD และค่า OFFSET เป็นเรื่องทางเทคนิคไว้ค่อยไปถามที่ร้าน เค้าจะแนะนำเราได้

3. ยางรถยนต์
เมื่อได้ล้อใหม่แล้วยางก็ต้องเปลี่ยนด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะใส่แม็กที่ใหญ่ขึ้นกี่นิ้วก็ตามเมื่อใส่ยางแล้ว จะต้องมีเส้นรอบวงภายนอกของยางที่ใกล้เคียงยางมาตรฐานที่ติดมาจากโรงงานที่สุด ซึ่งถ้ายางเส้นรอบวงกว้างขึ้น จะทำให้รถอืดและไมล์แข็งกว่าค่าปกติ แต่ถ้าเส้นรอบวงน้อยลง อัตราเร่งจะดี แต่จะได้ระยะทางต่อเกียร์น้อยลง เพราะล้อหมุนแต่ละรอบได้ระยะทางสั้นลง มาตรวัดความเร็วจะแสดงผลมากกว่าความเร็วจริง (ไมล์อ่อน)

ซึ่งก็มีวิธีเลือก เช่น ถ้าเปลี่ยนล้อแม็กใหญ่ขึ้น 2 นิ้ว เมื่อจะเลือกยางก็มักพบว่ายางจะมีขนาดใกล้เคียงเดิมหรือสูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งถือว่าดีกว่าเตี้ยลง เพราะถ้าเตี้ยลง ระยะห่างระหว่างยางกับขอบบังโคลนจะมีมากขึ้นจนดูไม่สวย (ยางเดิมก็ห่างมากอยู่แล้ว) เลือกยางใหม่ให้มีความ สูงพอๆ กับยางเดิม หรือสูงขึ้นไม่เกิน 1 เซนติเมตร ถือว่าลงตัว

ถึงตรงนี้ หลายๆคนก็คงสรุปได้แล้วว่าหากต้องการเปลี่ยนล้อรถยนต์ ก็ควรเลือกให้เหมาะกับเส้นรอบวงของยางใกล้เคียงกับมาตรฐานเดิม หรือตามขนาดล้อแม็กที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง หากเปลี่ยนเป็นล้อเล็กก็ให้เพิ่มขนาดแก้มยางใหญ่ขึ้น หรือหากเปลี่ยนเป็นล้อใหญ่ให้ลดขนาดแก้มยางลง ถ้าหากเส้นรอบวงเปลี่ยนไปจากค่าเดิมมากเกินไปจะส่งผลให้ ไมล์แข็งหรืออ่อนเกินจากปกติค่าได้

ถ้าหากใครที่กำลังมีแผนจะเปลี่ยนล้อแม็กนั้น เทคนิคที่เราได้แนะนำไปคงช่วยได้ไม่มากก็น้อยนะครับ ทั้งในเรื่องของดีไซน์ ขนาด และยาง รวมถึงคุณสมบัติอื่นๆ ว่าเหมาะกับรถคุณหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้อาจจะต้องศึกษาข้อมูลหรือสอบถามเพิ่มเติมจากศูนย์จำหน่ายที่ได้มาตรฐานนะครับ ทางเยลโล่เซอร์วิสของเราเอง ซึ่งเป็นศูนย์บริการมาตรฐาน iso ก็ยินดีให้คำปรึกษาในส่วนนี้นะครับ

รู้เรื่องรถ

Visitors: 66,883